กายพ์ยานี ๑๑
๐ เมื่อนั้นพระศรีอารย์ กล่าวขานโวหารถามมาลัย
เมื่อเขาให้ซึ่งอันใด ชื่อว่าทานแลเขาทำ ฯ
๐ เมื่อรักษาศีล ศีลอันใดอันเขาจำ
ชาวชมภูแลเขาทำ สิ่งชื่อใดในโลกา ฯ
๐ พระเถรว่าเห็นเจ้าให้ ข้าวแลน้ำแลวัตถุ
ธูปเทียนชวาลา พวงดอกไม้หอมขจร ฯ
๐ เครื่องทานแลเสื่อสาด เครื่องปูลาดแลฟูกหมอน
เตียงตั่งที่นั่งนอน กุฎิสถานย่อมมากมาย ฯ
๐ เครื่องทานทั้งสิบไซร้ ลางคนให้สิ่งเดียวดาย
ลางคนทำฟูมฟาย ได้ให้ถ้วนทั้งสิบอัน ฯ
๐ ทานทั้งสิบนี้ไซร้ มิได้ให้ทั้งสิบน้ัน
ลางคนหมั่นฟังธรรม์ มักจำศีลสมาทาน ฯ
๐ ลางคนนิมนต์สงฆ์ ให้สวดมนต์เป็นนิจกาล
ลางคนให้ชีวิตทาน ผู้ใดไข้ช่วยรักษา ฯ
๐ ลางคนมักแผ้วกวาด ทั้งอาวาสสร้างวัดวา
สร้างวิหารไว้พุทธา โรงเทศนาแลกุฎี ฯ
๐ ลางคนให้ขุดสระ สร้างรูปพระแลเจดีย์
ปลูกปราสาทไว้พระศรี มีประดับในศาสนา ฯ
๐ บ้างแต่งเครื่องจังหัน ขนมอันรสโอชา
ลางคนชวนกันมา ผู้ใดตายไปช่วยเผา ฯ
๐ ลางคนแต่งยาไว้ ใครป่วยไข้ให้มาเอา
ลางคนรักษาเขา ผู้เป็นพยาธิให้สำราญ ฯ
๐ ลางคนเลี้ยงพ่อแม่ ปู่ย่าแก่ญาติพงศ์ปราณ
หมั่นรักษาพยาบาล แก่พระพุทธพระธรรมสงฆ์ ฯ
๐ บ้างภาวนาพระไตรลักษณ์ เพื่อจะหักน้ำใจลง
ตัดโลภให้ปลดปลง ตามพระเจ้าตรัสเทศนา ฯ
๐ ศีลห้าแลศีลแปด ศีลสิบอันหมั่นรักษา
ถวายข้าวสงฆ์ให้วัตถา จตุปัจจัยให้เป็นทาน ฯ
๐ ลางคนให้เตียงตั่ง ม่านก้ันบังตาดเพดาน
บ้างให้อัฎบริขาร ด้วยศรัทธาอันยิ่งยง ฯ
๐ ให้จีวรผ้าพาดทับ ประคตสรรพแลสบง
บาตรกลดสำหรับสงฆ์ มีดโกนผมผ้ากรองดี ฯ
๐ ลางคนใจกุศล ให้ลูกตนบวชเป็นชี
ลางคนปล่อยทาสี แลทาสาให้เป็นไท ฯ
๐ ลางคนใจตระหนี่ บ่คลี่ทรัพย์ให้แ่กใคร
น้อมแต่จิตอ่อนแต่ใจ โมทนาเป็นอาจิณ ฯ
๐ สารพัดบุญทุกประการ ศีลแลทานเขาทำสิ้น
ชาวชมภูทั่้วแดนดิน เขาทำได้ตามกำลัง ฯ
๐ พระมาลัยเทพเถร บอกให้พระไมตรีฟัง
ต้นปลายแต่ปางหลัง ให้รู้เรื่องชาวชมภู ฯ ราบ ฯ
* คำว่า ราบ เข้าใจว่าบอกการบรรเลงเพลงปี่พาทย์เมื่อสวดจบตอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น