วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2558

กาพย์พระมาลัย (๑๑)




กาพย์ร่ายไม้ ๓๒

๐ ยังมีเทพหนึ่ง         บริวารสี่หมื่น
เสด็จมาชมชืน          ไหว้พระเจดีย์
พระเถรเล็งเห็น         ถามท้าวโกสีย์
องค์พระไมตรี           มาโพ้นหรือไร ฯ

๐ พระอินทร์จึงขาน  ไหว้พลางตอบไป
ใช่พระเมตไตรย        หน่อพระพุทธองค์
พระเถรว่าใคร            แลไปยิ่งยง
อินทราว่าใช่องค์       ใช่พระทศพล ฯ

๐ พระเถรจึงถาม        ความในกุศล
เทพนี้เมื่อเป็นคน       สร้างผลชื่อใด
มีอานุภาพ                 มากล้นเหลือใจ
บริวารงามไสว           ล้วนนางสาวศรี ฯ

๐ เทพนี้เมื่อก่อน      เป็นช่างหูกดี
ปัญญาก็มี                ทำบุญมิหย่อน
อยู่เมื่องอนุราช        บุรีนคร
ช่างหูกบวร              คือเพชรฉลูกรรม์ ฯ

๐ ชายน้ันแลเห็น     ซากผีขมีขมัน
เก็บฟืนด้วยพลัน     มาเผาเอาบุญ
นิมนต์พระสงฆ์        ให้บังสุกุล
ให้ทานทำบุญ         อุทิศส่งไป ฯ

๐ ชายน้ันตักบาตร      อาคาสผ้าไตร
ฟูกหมอนที่นอนใหญ่  เตียงตั่งอย่างดี 
ได้นางสี่หมื่น              เพราะบุญเผาผีง
มีที่นอนดี                   บุญให้ฟูกหมอน ฯ

๐ เทพนั้นผันผาย       ถวายชุลีกร
พระธาตุบวร               ด้วยบริวารตน
ทักษิณแปดทิศ         ด้วยจิตกุศล
ทั้งบริวารตน              นั้งเรียงกันไป ฯ

๐ ดับน้ันเทพหนึ่ง     เสด็จมาทันใด
นางห้าหมื่นไสว       แต่ล้วนสาวสวรรค์
มีพระรัศมี                 มีแสงเฉิดฉัน
มาถวายอภิวันท์       พระธาตุเจดีย์ ฯ

๐ พระเถรแลเห็น    ถามท้าวโกสีย์
นั้่นพระไมตรี           ใช่หรือเทพใด
พระอินทร์ตอบคดี   เทพนี้มิใช่
พระเถรว่าใคร          เรืองทั่วสากล ฯ

๐ พระเถรว่าเทพ     ผู้นั้นสร้างผล
เมื่ออยู่เป็นคน         ทำกุศลชื่อใด
มีนางสวรรค์            ห้อมล้อมไสว
รัศมีเรืองใส             แน่นเนืองกันมา ฯ

๐ เทพนี้เมื่อก่อน     ได้เป็นพระยา
ในเมืองลังกา           เกาะแก้วบุรี
ชื่อท้าวศรัทธา          ติสสาธิบดี
เธอได้เป็นพี่              แห่งท้าวอภัย ฯ

๐ เธอนั้นเคารพ        ไหว้นพระรัตนตรัย
พระอรหันต์นั้นไซร้    ท่านได้นมัสการ
รักษาศีลห้า               ศีลแปดประการ
ไตรลักษณญาณ       ท่านได้ภาวนา ฯ

๐ บ่มิได้ตระหนี่        ถี่ทรัพย์บูชา
พระเจ้าไปมา           ยาจกอาศัย
บุญดั่งนี้แล               นาพระมาลัย
นางสวรรค์แลไสว    ห้าหมื่นมีศรี ฯ

๐ เทพน้ันเสด็จมา   ไหว้พระเจดีย์
กับนางสาวศรี          ห้าหมื่นบริวาร
ก้มเกล้าเกศี             ยกกรนมัสการ
ทักษิณชื่นบาน         แปดทิศเวียนไป ฯ

๐ แล้วออกมานั้ง     ลำดับต่อไป
ตามอัชฌาศัย         ที่นั่งแห่งตน
กับทั้งบริวาร           ห้าหมื่นสับสน
ตามที่ของตน         เคยนั้่งทุกที ฯ เชิด ฯ

กาพย์ฉบัง ๑๖

๐ เทพหนึ่งเสด็จมาด้วยพลัน  บริวารครามครัน
นับได้หกหมื่นโดยตรา ฯ
๐ มาเพื่อจะไหว้วันทา              พระเกศจุฬา
พระธาตุพระเจ้าด้วยดี ฯ
๐ พระเถรถามท้าวโกสีย์          โน้นพระไมตรี
โพธิสัตว์เจ้าหรือกลใด ฯ
๐ พระอินทร์จีงบอกพระมาลัย  ศรีอารย์มิใช่
เทพองค์อื่นไซร้เสด็จมา ฯ
๐ พระเถรถามท้าวอินทรา        ว่าเทพน้ันหนา
ได้สร้างกุศลชื่อใด ฯ
๐ อินทราว่าท่านนี้ไซร้             ชื่อท้าวอภัย
ทศคามณีลงกา ฯ
๐ ท่านนี้เลื่อมใสศรัทธา          ให้ข้าวแลผ้า
ให้ทั้งกุฎีแลสถาน ฯ
๐ ปรนนิบัติเภสัชบริขาร           อุปฐากทุกกาล
ฟังธรรมเป็นนิตย์โดยจง ฯ
๐ ไหว้นพเคารพดำรง             ต้ังจิตใจปลง
ช่วยท้ังมวลสงฆ์อันดี ฯ
๐ ทำสถูปรูปพระเจดีย์            ปลูกไม้พระศรี
มหาโพธิ์เป็นเจดีย์สถาน ฯ
๐ ปรนนิบัติพ่อแม่เผ่าปราน     รักษาพยาบาล
บำเรอพระสงฆ์ขัดสน ฯ
๐ ผู้่ใดยากไร้ทรพล                ลำบากยากจน
ก็ให้ดั่งใจจินดา ฯ
๐ ผู้ใดมีใจปรารถนา               ข้าวน้ำโภชนา
ก็ให้ตามใจจำนง ฯ
๐ ชีพราหมณ์สมณะพระสงฆ์  ต้ังใจจำนง
ปฎิบัติทุกเวลา ฯ
๐  ท่านนั้นได้ทำก่อนมา         จึ่งได้นางฟ้า
หกหมื่นสับสนล้อมมา ฯ
๐ เทพน้ันจึงเสด็จเคลื่อนคลา  กราบไหว้วันทา
แล้วทักษิณรอบพระเจดีย์ ฯ
๐ ยอกรประนมชุลี                    ไหว้พระเจดีย์
ด้วยใจใสสุทธิ์ศรัทธา ฯ
๐ ไหว้แล้วจึงเสด็จออกมา        นั้่งในฐานา
อันควรอันดับน้ันไป ฯ ฉัน ฯ

* คำว่า เชิด ฉัน เข้าใจว่าเป็นการบอกการบรรเลงเพลงปี่พาทย์เมื่อสวดจบตอน







      

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น