วันจันทร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2559

กาพย์พระมาลัย (ภาคพระศรีอารย์) ตอนที่ ๕


กาพย์ฉบัง ๑๖

๐ เมื่อนั้นอินทราเจ้าไพชยนต์           จึงแจ้งยุบล
ว่าโพธิสัตว์นี้มีสาม ฯ
๐ ผู้หนึ่งปัญญาเกิบขาม                    จึงได้พระนาม
ชื่อปัญญาธิกะหน่อพุทธองค์ ฯ
๐ ผู้หนึ่งศรัทธายวดยง                      เมื่อเป็นพุทธองค์
ชื่อศรัทธาธิกะจอมธรรม์ ฯ
๐ ผู้หนึ่งอุตสาหะมากครัน                 ทรงนามอนันต์
ชื่อวิริยาธิกะเจ้าจุมพล ฯ
๐ ล้ำโพธิสัตว์ทั้งสามสร้างผล           ปัญญายิ่งพล
ได้ชื่อปัญญาธิกะเลิศไตร ฯ
๐ สร้างสมภารสี่อสงไขย                  กับทั้งกำไร
ได้แสนมหากัปป์บริบูรณ์ ฯ
๐ พระมีเพียรมากเพิ่มพูน                 สมภารสมบรูณ์
กำหนดโสฬสอสงไขย ฯ
๐ อีกแสนมหากัปป์กำไร                 เพียรมากเหลือใจ
ชื่อวิริยาธิกะโดยมี ฯ
๐ สมภารแห่งพระไมตรี                  คือน้ำอันมี
ในสี่สมุทรไม่ปูนปาน ฯ
๐ จะบอกได้แต่ไม่วิตถาร               กว่านั้นพ้นประมาณ
คือดั่งน้ำในสมุทรสาคร ฯ
๐ ข้าคือกระต่ายอยู่ดอน                หยั่งน้ำในสาคร
ทั้งตัวก็จะจมลงเสีย ฯ
๐ ข้่าพระเจ้าคือกระต่ายตัวเปลี้ย  ได้ลืมได้เสีย
น้ำค้างปลายหญ้าสองสามอัน ฯ
๐ น้ำในสาครยังครัน                     อเนกอนันต์
มิรู้ที่จะแห้งสุดสาย ฯ
๐ สมภารแห่งพระศรีอารย์            ยังมีมากหลาย
ข้าพระเจ้าเล่าถวายได้เท่านี้ ฯ ฉัน ฯ

*ฉัน เข้าใจว่าบอกการบรรเลงเพลงปี่พาทย์เมื่อสวดจบตอน    

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น