วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2559

กาพย์พระมาลัย (ภาคพระศรีอารย์) ตอนที่ ๔



กาพย์ยานี ๑๑

๐ พระเถรฟังวาจา             แห่งอินทราเพราะอุดม
มหาเถรสรรเสริญชม         สมภารเทพกัญญา ฯ
๐ เมื่อจะถามคำให้ยิ่ง        จึงพระเถรเผยวาจา
ถามท้าวอมรินทรา             ให้รู้แจ้งแห่งคดี ฯ
๐ สาวสวรรค์งามสะพรั่ง     มาภายหลังพระไมตรี
ประกอบด้วยรัศมี               เขียวขจีมรกตพรรณ ฯ
๐ อาภรณ์สร้อยเทริดแก้ว  งามพรายแพร้วเขียวทุกอัน
รัศมีสีแสงสรรพ์                 ย่อมเขียวทั้วสรรพางค์ ฯ
๐ สาวสาวรูปเหมือนกัน     ดั่งเลือกสรรดูสำอาง
เขียวแดงแสงกระจ่าง        เนื้อเขียวดั่งกลีบอุบล ฯ
๐ เขียวแดงแสงใสสด        เขียวมรกตทั่วทั้่งตน
เมื่อก่อนสร้างกุศล             ทำบุญใดแต่ปางเพรง ฯ
๐ เมื่อนั้นท้าวไตรภพ         ยอกรนบด้วยยำเกรง
บอกบุญแต่ปางเพรง         บางท้ังหลายได้สร้างมา ฯ
๐ พระอินทร์เสด็จอยุู่         ท่ามกลางหมู่แห่งเทวา
ยอกรไว้วันทา                    ตอบวาจาพระเถรถาม ฯ
๐ ข้าแต่พระเถรเจ้า            ข้าขอเล่าแต่พองาม
บุญนางอันมากตาม            มาภายหลังพระไมตรี ฯ
๐ เมื่อก่อนนางได้เกิด        เอากำเนิดในโลกีย์
ครั้นถึงวันอัฎฐมี                 นางจำศีลเป็นอัตรา ฯ
๐ นางหมั่นไปฟังธรรม       เมื่อพระเจ้าเทศนา
ก้มเกล้าถวายมาลา           ประทีบเทียนด้วยฉับเฉียว ฯ
๐ ถวายผ้าแลแพรพรรณ    อันมีพรรณย่อมล้วนเขียว
กลิ้งกลดแลธงเทียว          นางถวายบูชาธรรม์ ฯ
๐ ครั้นตายได้มาเกิด          เอากำเนิดในเมืองสวรรค์
ห้อมล้อมเจ้าจอมธรรม์      เป็นฝ่ายหลังพระไมตรี ฯ
๐ ม่วงแดงเนื้อใสสด         เห็นปรากฎงามมีศรี
ได้เครื่องประดับดี             เขียวชวนชื่นระรื่นใจ ฯ
๐ พระเถรได้ฟังอินทร์       กล่าวบอกสิ้นแถลงไข
สรรเสริญด้วยฉับไว           ว่าไพเราะพ้นประมาณ ฯ
๐ แล้วถามถึงพระคุณ        ถามถึงบุญพระศรีอารย์
ท่านได้สร้างสมภาร          ชื่อใดหนอยิ่งนักหนา ฯ
๐ บริวารล้วนนางสวรรค์    อเนกอนันต์ห้อมล้อมมา
สมภารท่านน้ันมา             ท่านสร้างมาเป็นกลใด ฯ
๐ บพิตรโปรดเฉลย          เผยวาจาว่าสืบไป
สมบัติพระเมตไตรย         ดูพิลึกยิ่งแสนทวี ฯ
๐ พระอินทร์บอกสมภาร   พระศรีอารย์สร้างบารมี
ยิ่งกว่าพระธรณี                ได้แสนโกฎิเลิศยิ่งยง ฯ
๐ ไมตรีพระโพธิสัตว์        จะได้ตรัสเป็นพุทธองค์
พระเจ้าจะได้ส่ง                สัตว์ทั้งหลายเข้านิพพาน ฯ
๐ พระเจ้าจะโปรดโลก      พ้นจากโอษสงสาร
ได้สร้างบุญสมภาร           มากกว่าแผ่นพระธรณี ฯ
๐ พระให้สมบัติโภค         เป็นยศโยคแ่กโลกีย์
ให้สัตว์ทั่้วธรณี                 อิ่มอกตื้นชื่นใจบาน ฯ
๐ ข้ามิอาจจะกล่าวได้      ท่านสร้างไว้มาช้านาน
บารมีพระศรีอารย์             ข้านี้รู้มิสิ้นเลย ฯ
๐ เจ้าจอมจะลุเสร็ฺจ          ตรัสสรรเพชญ์ชื่นชมเชย
มาลัยเจ้าหัวเอย               ข้าจะเล่ามิถ้วนถึง ฯ
๐ สมภารท่านเลิศล้น       พ้นที่รู้ที่รำพึง
ข้ามิอาจจะร่ำถึง              จะได้บอกแต่บังควร ฯ
พระแต่งขุมทรัพย์ไว้    ให้แก่โลกทั้วทั้งมวล
ให้ทานย่อมสมควร          มากกว่าโกฎิอสงไขย ฯ
๐ส่วนองค์พระนั่งเกล้า     ผู้ผ่าน เผ้าชื่อเมตไตรย
ทำเพียรบารมีไว้              ได้อเนกกัปป์โกฎิมา ฯ
๐ สมเด็จพระไมตรี           สร้างขันติบารมีมา
จะโปรดสัตว์ทั่วโลกา       ให้พ้นทุกข์ทั้วอนันต์ ฯ
๐ ได้สร้างซึ่งขันติ            บารมีมากครามครัน
ได้อเนกนันโกฎิกัลป์       หลายชาติแล้วสร้างกุศลฯ
๐ ไมตรีจะโปรดสัตว์        ถึงอรหัตต์ลุมรรคผล
ให้หน่ายในกายตน          ด้วยพระไตรลักษณญาณ ฯ
๐ ท่านต้ังสัจจบารมี         มามากมีก่อนมานาน
ต้ังไตรลักษณญาณ         เอาเท่านี้เป็นอารมณ์ ฯ
๐ ไมตรีเจ้าจอมนาถ        เพียรหลายชาติท่านสร้างสม
ตั้งอธิษฐานเป็นอารมณ์   จะขอตรัสเป็นพุทธองค์ ฯ
๐ นิจศีลห้าประการ          ท่านรักษาให้มั่นคง
ตั้งจิตคิดจำนง                 จะโปรดสัตว์ทั้งอนันต์ ฯ
๐ โปรดสัตว์ให้ไปเกิด     เอากำเนิดในเมืองสวรรค์
ให้สัตว์หมั่นฟังธรรม์        รักษาศีลเป็นนิจกาล ฯ
๐ ส่วนองค์พระนั่งเกล้า    รักษาศีลสมาทาน
อุโบสถแปดประการ         แลศีลห้าทุกทุกวัน ฯ
๐ ส่วนองค์ทรงผนวช       เสด็จออกบวชร่ำเรียนธรรม์
มากกว่ากัปป์โกฎิกัลป์     แต่ท่านได้บวชเป็นสงฆ์ ฯ
๐ สอนสัตว์ให้เข้าฌาณ   อาณาปาอันยิ่งยง
ให้สัตว์ไปทางตรง           ในอักนิฎฐพรหมา ฯ
๐ สมเด็จพระเมตไตรย    สอนสัตว์ไปทั่วโลกา 
ให้เห็นอนิจจา                 จะให้ได้โสดาผล ฯ
๐ พระเอาปัญญาอ้อม      มาห้อมล้อมสัตว์ทุกคน
ให้ได้ซี่งมรรคผล             พ้นวิบาปจากโลกา ฯ
๐ พระเจ้าโปรดสัตว์ไป     จะให้ได้สกิททาคา
ให้เห็นอนิจจา                  นาสังเวชในสงสาร ฯ
๐ จะให้นิพพานสมบัติ      แก่ฝูงสัตว์ทุกสถาน
ให้แจ้งในสงสาร               ให้สัตวฺ์เห็นแจ้งแก่ใจ ฯ
๐ ไมตรีท่านดีนัก              ท่านมิรักมิชังใคร
สมเด็จพระเมตไตรย        ได้สร้างแล้วมากนานาน ฯ
๐ อนันต์อดิเรก                 อดิเรกพ้นประมาณ
ได้ก่อเริ่มเพิ่มมานาน        นับเอนกอนันต์ครัน ฯ
๐ ไมตรีเจ้าจอมปราชญ์    อาจสามารถจะแปลธรรม์
โน้มสัตว์ให้ไปสวรรค์       แล้วให้ได้ถึงนิพพาน ฯ
๐ ไมตรีผู้ฉลาด                ตั้งสมาธิกัมมัฎฐาน
ข่มกิเลสอุปาทาน            ด้วยศีลญาณน้ำใจตรง ฯ
๐สอนสัตว์ทกประเทศ     ดับกิเลสให้ปลดปลง
สมภารแห่งพระองค์         สร้างมากแล้วจึงสำเร็จ ฯ
๐สมเด็จพระศรีอารย์        ปัญญาญาณคือ สายเพ็ชร
ตัดบาปให้ขาดเด็ด           ด้วยดาบกรดคือปัญญา ฯ
๐ สร้างโพธิสมภาร           ด้วยพระญาณมหึมา
มากยิ่งกว่าพสุธา             ได้อเนกอสงไขย ฯ
๐ โปรดสัตว์ให้ไปรอด     ได้เล็ดลอดพ้นทุกข์ภัย
ล่วงลัดสงสารไป              พ้นจากทุกข์เข้านิพพาน ฯ
๐ เมตไตรยรุุ่งเรืองโชติ    ท่านสร้างโพธิสมภาร
ได้อนันต์จักรวาล              ยิ่งล้นพ้นนี้ออกไป ฯ
๐ ไมตรีเจ้าใจกว้าง           จะบอกทางให้แจ้งใจ
ไตรลักษณ์ฺท่านจักไข      ให้เห็นแจ้งแห่งมรรคผล ฯ
๐ ผู้ใดใคร่นิพพาน            ดับสงสารม้วยชาติชนม์
ให้จำเริญสร้างกุศล           เอาไตรลักษณ์ภาวนาฯ
๐ สมเด็จพระศรีอารย์        ผู้จะผลาญกิเลสราคา
เอาไตรลักษณ์ภาวนา       เป็นเนืองนิตย์ทุกวันวาน ฯ
๐ หายใจออกหายใจเข้า   เอาไตรลักษณ์เป็นกรรมฐาน
เมื่อได้ตรัสโพธิญาณ        เอาไตรลักษณ์โปรดสัตว์ไป ฯ เชิด ฯ 

 คำว่า เชิด  เข้าใจว่าบอกการบรรเลงเพลงปี่พาทย์เมื่อสวดจบตอน




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น