วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558
กาพย์พระมาลัย (๑๔)
กาพย์ร่ายไม้ ๓๒
๐ ยังมีเทพหนึ่ง บริวารถึงแสน
แต่ล้วนนางแมน ห้อมล้อมกันมา
พระเถรเล็งเห็น จึงถามอินทรา
พระไมตรีมา โน่นหรือฉันใด ฯ
๐ เมื่อน้ันพระอินทร์ จึ่งขานตอบไป
เทพบุตรนี้ไซร้ ใช่พระศรีอารย์
เทพนี้ปรากฎ ด้วยยศบริวาร
ได้สร้างสมภาร ทำบุญสิ่งใด ฯ
๐ บริวารห้อมล้อม สะพรึบพร้อมมาไสว
ทำบุญชื่อใด เมื่ออยู่เป็นคน
มาไหว้พระเจดีย์ เป็นสุขสถาผล
เมื่ออยู่เป็นคน ทำกุศลชื่อใด ฯ
๐ เทพนี้เมื่อก่อน เป็นเทพเข็ญใจ
อยู่ในเมืองใหญ่ อนุราชบุรี
ชายนั้นรักษา ศีลห้าด้วยดี
ปัญญาก็มี น้ำใจกุศล ฯ
๐ เกี่ยวหญ้ามาขาย ตามเข็ญใจตน
โดยชอบกุศล ตามโลกวิสัย
ชายนั้นเดินตาม ริมแม่น้ำไป
เห็นทรายผ่องใส ดั่งเงินโสภา ฯ
๐ ชายน้ันเห็นทราย จึงเกิดศรัทธา
ประมวลเข้ามา ก่อพระเจดีย์
ชายน้ันกราบกราน ยกกรชุลี
ชื่นชมยินดี จึ่งกล่าวคาถา ฯ เชิด ฯ
กาพย์ยานี ๑๑
๐ พระสถูปเจดีย์ทราย งามพรรณรายเห็นสมบรูณ์
ดุจดั่งแก้วไพทรูย์ รัศมีเลื่อมเลื่อมเรืองพราย ฯ
๐ รุ่งเรืองคือกองไฟ งามแสงใสด้วยแสงทราย
เฉิดฉันงามพรรณราย ดูพิจิตรงามโสภา ฯ
๐ เร่งยินดียอกรไหว้ เพราะตนได้แต่งรจนา
น้อมตัวอ่อนลงมา ร้องออกปากสรรเสริญชม ฯ
๐ น้ำจิตก็โอนอ่อน ประนมกรขึ้นบังคม
เก็บดอกไม้มาผสม เรียงเรียบไว้ถวายบูชา ฯ
๐ เลี้ยงดูบำเรอสงฆ์ ให้สบงจีวรมา
ฉลองทานเป็นนาวา จะขี่ข้ามพ้นสงสาร ฯ
๐ บุญก่อเจดีย์ทราย ได้นางฟ้าเป็นบริวาร
แสนหนึ่งล้วนสะคราญ เป็นบริวารหน้านวลศรี ฯ
๐ เทพนั้นเสด็จเข้ามา ถวายวันทาพระเจดีย์
กราบกรานอัญชุลี ประนมกรด้วยบรรจง ฯ
๐ ทักษิณทั้งแปดทิศ ไหว้พระแล้วนั่งลง
ในสถานที่จำนง อันเคยนั่งนั้นถัดไป ฯ ฉัน ฯ
* ฉัน เข้าใจว่าบอกการบรรเลงเพลงปี่พาทย์เมื่อสวดจบตอน
จบภาคสวรรค์
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น