กาพย์ยานี ๑๑
๐ เมื่อนั้นว่ายังมี เปรตฝูงหนึ่งเห็นพึงกลัว
มีแต่ตัวบ่มีหัว เปรตหัวด้วนเห็นพิกล ฯ
๐ยมบาลเอาเชือกเหล็ก ร้อนกว่าร้อนมัดทั้งตน
ดิ้นระด่าวครางอะดล เขาเร่งคาดเร่งตรึงลง ฯ
๐ ยมบาลเอาเหล็กแหลม ร้อนเป็นไฟตรึงท้ังองค์
เอาหอกรุมแทงลง ชูขึ้นไว้ในเวหา ฯ
๐ เปรตนั้นดิ้นทุกข์ทน บนปลายหอกร้อนหนักหนา
ถ้าจะนับคณนา ยั่งยืนมากกว่าพันปี ฯ
๐ เปรตหัวด้วนเจ็บปวดนัก เป็นอัปลักษณ์ร้ายอัปรีย์
ปากอยู่ทวารน่าบัดสี ดวงตามีในอกตน ฯ
๐ มีหัวอยู่ในท้อง ส่วนจมูกอยู่เบื้องบน
มีรูปนั้นพิกล ทนวิบากยากหนักหนา
๐แร้งกาล้วนปากเหล็ก นกตะกรุมรุมกันมา
เต็นเข้าสับจิกตา หูจมูกขาดเรีบงราย ฯ
๐ เปรตนั้นเป็นบ่มิเป็น ส่วนอาจารย์ก็มิตาย
ลำบากยากเหลือหลาย ยังยืนมากว่าพันปี ฯ
๐ เปรตนั้นเมื่อเป็นคน อยู่แว่นแคว้นแดนบุรี
ราชคฤห์เมืองมีศรี ชายผุ้นี้ใจอาธรรม์ ฯ
๐ ชวนเพื่่อนไปรุกรัน ปล้นชิงท่านท้ังฆ่าฟัน
เป็นคนใจอาธรรม์ ฉกตีนเอาคนเดินทาง ฯ
๐ เล็งเห็นสิ่งสินเขา ลักลอบเอาบ่เว้นวาง
ซุกซ่อนนอนริมทาง ลักช้างม้าและวัวควาย ฯ
๐ ปล้นชิงสิ่งสินเขา ไล่เจ้าของกระจัดกระจาย
บ่กลัวบ่ละอาย ปล้นฟันเฆี่ยนเอาทรัพย์เขา ฯ
๐ บาปปล้นท่านเจ้าทรัพย์ ให้ยากยับให้อับเฉา
ยมบาลท่านจึงเอา เชือกเหล็กแดงเร่งคาดลง ฯ
๐ บาปปล้นท่านเจ้าของ โศกเศร้าหมองเร่งงวยงง
เหล็กแหลมเร่งตรึงลง เพราะบาปตนแทงยิงเขา ฯ
๐ บาปฉกชิงของท่าน ให้เจ้าทรัพย์จนอับเฉา
เป็ฺนเปรตอยู่ตัวเปล่า มีแต่ตัวไม่มีหัว ฯ
๐ บาปปล้นท่านร้องตวาด ให้เจ้าทรัพย์ตกใจกลัว
เป็นเปรตไม่มีหัว มีแต่ตัวเห็นพิกล ฯ
๐ บาปปล้นชิงทรัพย์ท่าน ให้เจ้าทรัพย์หนีอลวน
เป็นเปรตรูปพิกล มีหูตาอยู่ในอก ฯ
๐ บาปรุกร้นปล้นเอาท่าน ให้เจ้าบ้านตกใจงก
เป็นเปรตรูปสกปรก ปากกลับตกอยุู่ทวารตน ฯ
๐ บาปรุกร้นปล้นของท่าน ให้เจ้าบ้านไร้ทรพล
บรรดาปากอยู่เบื้องบน กลับพิกลอยู่ทวารเอง ฯ
๐ บาปฉวยฉกชิงของท่าน ขู่คำรามอยู่ครื้นเครง
เป็นเปรตอยู่วังเวง มีหัวอยู่ในท้องตน ฯ
๐ บาปปล้นฉกตีท่าน ให้เจ้าบ้านตกใจฉงน
รูจมูกอยู่เบื้องบน รูปของตนก็เคลื่อนคลา ฯ
๐ บาปรุกร้นปล้นไล่จับ ชิงเอาทรัพย์ของเขามา
นกตะกรุมและแร้งกา บินโฉบมายื้อแย่งเอา ฯ
๐ ปากขาดจมูกขาด ตกเรี่ยราดดิ้นระเด่า
บาปตนปล้นชิงเขา หูตาเน่าเปื่อยทั้งกาย ฯ
๐ ร้องครางทนเวทนา ร่ำโศกาเร่งครางตาย
ลำบากยากเหลือร้าย บาปปล้นท่านมาถึงตน
๐ ดูราท่านทั้งหลาย เร่งขวนขวายสร้างกุศล
ญาติท่านได้ทุกข์ทน สั่งให้ท่านเร่งทำบุญ ฯ
๐ เปรตนรกสั่งฉันใด พระมาลัยผู้มีคุณ
ให้ญาติเขาทำบุญ อันเขาอยู่ในเมืองคน ฯ
๐ เปรตนรกสั่งดั่งนีั ร้องสั่งมีมาทุกคน
ทำบาปได้ทุกข์ทน บาปดั่งนี้อย่าได้ทำ ฯ
๐ ชื่่อว่าทานให้เร่งให้ ชื่อว่าศีลให้เร่งจำ
ชื่่อว่าบุญให้เร่งทำ คำพระเจ้าเร่งภาวนา ฯ เชิด ฯ
ภาพ : จิตรกรรมฝาผนัง วัดดุสิตดารามวรวิหาร
คำว่า เชิด เข้าใจว่าเป็นการบอกเพลงบรรเลงปี่พาทย์เมื่อจบตอน
๐ เมื่อนั้นว่ายังมี เปรตฝูงหนึ่งเห็นพึงกลัว
มีแต่ตัวบ่มีหัว เปรตหัวด้วนเห็นพิกล ฯ
๐ยมบาลเอาเชือกเหล็ก ร้อนกว่าร้อนมัดทั้งตน
ดิ้นระด่าวครางอะดล เขาเร่งคาดเร่งตรึงลง ฯ
๐ ยมบาลเอาเหล็กแหลม ร้อนเป็นไฟตรึงท้ังองค์
เอาหอกรุมแทงลง ชูขึ้นไว้ในเวหา ฯ
๐ เปรตนั้นดิ้นทุกข์ทน บนปลายหอกร้อนหนักหนา
ถ้าจะนับคณนา ยั่งยืนมากกว่าพันปี ฯ
๐ เปรตหัวด้วนเจ็บปวดนัก เป็นอัปลักษณ์ร้ายอัปรีย์
ปากอยู่ทวารน่าบัดสี ดวงตามีในอกตน ฯ
๐ มีหัวอยู่ในท้อง ส่วนจมูกอยู่เบื้องบน
มีรูปนั้นพิกล ทนวิบากยากหนักหนา
๐แร้งกาล้วนปากเหล็ก นกตะกรุมรุมกันมา
เต็นเข้าสับจิกตา หูจมูกขาดเรีบงราย ฯ
๐ เปรตนั้นเป็นบ่มิเป็น ส่วนอาจารย์ก็มิตาย
ลำบากยากเหลือหลาย ยังยืนมากว่าพันปี ฯ
๐ เปรตนั้นเมื่อเป็นคน อยู่แว่นแคว้นแดนบุรี
ราชคฤห์เมืองมีศรี ชายผุ้นี้ใจอาธรรม์ ฯ
๐ ชวนเพื่่อนไปรุกรัน ปล้นชิงท่านท้ังฆ่าฟัน
เป็นคนใจอาธรรม์ ฉกตีนเอาคนเดินทาง ฯ
๐ เล็งเห็นสิ่งสินเขา ลักลอบเอาบ่เว้นวาง
ซุกซ่อนนอนริมทาง ลักช้างม้าและวัวควาย ฯ
๐ ปล้นชิงสิ่งสินเขา ไล่เจ้าของกระจัดกระจาย
บ่กลัวบ่ละอาย ปล้นฟันเฆี่ยนเอาทรัพย์เขา ฯ
๐ บาปปล้นท่านเจ้าทรัพย์ ให้ยากยับให้อับเฉา
ยมบาลท่านจึงเอา เชือกเหล็กแดงเร่งคาดลง ฯ
๐ บาปปล้นท่านเจ้าของ โศกเศร้าหมองเร่งงวยงง
เหล็กแหลมเร่งตรึงลง เพราะบาปตนแทงยิงเขา ฯ
๐ บาปฉกชิงของท่าน ให้เจ้าทรัพย์จนอับเฉา
เป็ฺนเปรตอยู่ตัวเปล่า มีแต่ตัวไม่มีหัว ฯ
๐ บาปปล้นท่านร้องตวาด ให้เจ้าทรัพย์ตกใจกลัว
เป็นเปรตไม่มีหัว มีแต่ตัวเห็นพิกล ฯ
๐ บาปปล้นชิงทรัพย์ท่าน ให้เจ้าทรัพย์หนีอลวน
เป็นเปรตรูปพิกล มีหูตาอยู่ในอก ฯ
๐ บาปรุกร้นปล้นเอาท่าน ให้เจ้าบ้านตกใจงก
เป็นเปรตรูปสกปรก ปากกลับตกอยุู่ทวารตน ฯ
๐ บาปรุกร้นปล้นของท่าน ให้เจ้าบ้านไร้ทรพล
บรรดาปากอยู่เบื้องบน กลับพิกลอยู่ทวารเอง ฯ
๐ บาปฉวยฉกชิงของท่าน ขู่คำรามอยู่ครื้นเครง
เป็นเปรตอยู่วังเวง มีหัวอยู่ในท้องตน ฯ
๐ บาปปล้นฉกตีท่าน ให้เจ้าบ้านตกใจฉงน
รูจมูกอยู่เบื้องบน รูปของตนก็เคลื่อนคลา ฯ
๐ บาปรุกร้นปล้นไล่จับ ชิงเอาทรัพย์ของเขามา
นกตะกรุมและแร้งกา บินโฉบมายื้อแย่งเอา ฯ
๐ ปากขาดจมูกขาด ตกเรี่ยราดดิ้นระเด่า
บาปตนปล้นชิงเขา หูตาเน่าเปื่อยทั้งกาย ฯ
๐ ร้องครางทนเวทนา ร่ำโศกาเร่งครางตาย
ลำบากยากเหลือร้าย บาปปล้นท่านมาถึงตน
๐ ดูราท่านทั้งหลาย เร่งขวนขวายสร้างกุศล
ญาติท่านได้ทุกข์ทน สั่งให้ท่านเร่งทำบุญ ฯ
๐ เปรตนรกสั่งฉันใด พระมาลัยผู้มีคุณ
ให้ญาติเขาทำบุญ อันเขาอยู่ในเมืองคน ฯ
๐ เปรตนรกสั่งดั่งนีั ร้องสั่งมีมาทุกคน
ทำบาปได้ทุกข์ทน บาปดั่งนี้อย่าได้ทำ ฯ
๐ ชื่่อว่าทานให้เร่งให้ ชื่อว่าศีลให้เร่งจำ
ชื่่อว่าบุญให้เร่งทำ คำพระเจ้าเร่งภาวนา ฯ เชิด ฯ
ภาพ : จิตรกรรมฝาผนัง วัดดุสิตดารามวรวิหาร
คำว่า เชิด เข้าใจว่าเป็นการบอกเพลงบรรเลงปี่พาทย์เมื่อจบตอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น